วันก่อนมีโอกาสนั่งคุยกับน้องที่จับพลัดจับผลูมาคลุกคลีกับทฤษฎีการตลาดแบบ
พื้นฐานเป็นศูนย์ หลังจากนั่งอึ้งกับศัพท์ หลายตัวที่ออกจะไม่เข้าใจถ่องแท้เลยขอให้เราช่วยอธิบายให้ฟัง
( จะดีขึ้น หรือแย่ลง มารอดูกัน )
อะไรคือ Market
Size อะไรคือ Market Share
เราเองโดยเฉพาะคนในวางการ Marketing คงคุ้นเคยกับ
2 คำนี้เป็นอย่างดี เพราะ 2
สิ่งนี้คือผลแห่งปัจจัยของความสำเร็จเลยทีเดียว
แต่สำหรับคนที่อาจไม่คุ้นเคยให้โลกการตลาด ขออธิบายแบบนี้
ในการทำธุรกิจ สิ่งที่เราต้องรู้คือ พื้นที่หรือขนาดของตลาดที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจของเรามี
เท่าไหร่ ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้านั้นหรือไม่ จำนวนผู้บริโภคในปัจจุบัน
และในอนาคต
กลุ่มเป้าหมายหลักที่น่าจะเป็นลูกค้าเรา และอาจเป็นในอนาคต มีโอกาสมากเพียงใด
การมองเห็นถึงขนาดและความต้องการของตลาด เป็นข้อมูลในการช่วยตัดสินใจในด้านการลงทุนเพราะสินค้าบางประเภทต้องการ
Market Size ขนาดใหญ่เพื่อตอบโจทย์
และแผนทางธุรกิจของผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการ ที่วางไว้ Market Size
ของแต่ละธุรกิจ ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับ รูปแบบ ธุรกิจ วัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย
ที่องค์กรวางไว้ Market Size ของ Consumer Products หลายๆ แบรนด์ที่เราคุ้นตา มีความต้องการ Market Size
ระดับ Global เลยทีเดียว ![]() |
ที่มา http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/f/fd/TAM-SAM-Market.jpg |
แต่ Market
Size ที่ใหญ่ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถฉกฉวยผลประโยชน์จากพื้นที่นั้นได้ทั้งหมด
สิ่งที่เราต้องทำหากต้องการให้ผู้บริโภค ในพื้นที่นั้น กลายมาเป็นลูกค้า คือ การสร้างส่วนแบ่งทางการตลาด
(Market Share) จาก Market Size
ที่เราต้องการให้ได้ เพราะอย่าลืมว่าเราไม่ใช่คนเดียวที่มองเห็นโอกาสใน Market
Size นั้น จำเป็นที่เราต้องหากลยุทธ์ทางการตลาดในหลากหลายวิธีมาใช้
ไม่ว่าจะการสร้างแบรนด์ที่แตกต่าง การใช้ทฤษฎี 4P ก็ยังต้องไม่ลืม
หรือจะอื่นๆอีกมากมาย เพื่อสร้างให้เราได้ส่วนแบ่งนั้นมา
![]() |
|
มาถึงตรงนี้
หลายคนอาจยังไม่ Get แบบถ่องแท้ งั้นลองใหม่
เรานึกถึงงานปาร์ตี้ที่สาวๆ 4 คนนั่งล้อมวง และสั่ง
Honey Toast มา 1 ที่ สาวๆทั้ง 3 คือ คู่แข่งเรา และ Honey Toast คือ Market
Size ใครตักได้ไว คำใหญ่ คนนั้นได้ Market Share เยอะ แต่คนที่ตักได้ช้าไม่ทันเพื่อน คนนั้นก็ถือได้ว่า มี Market
Share น้อย มีให้เลือก 2 วิธี
คือหากลยุทธ์ให้คนตักไว ตักช้าลง ไม่ว่าจะชวนคุย แกล้งทำช้อนตกแล้วขอยืมเพื่อนคนนั้นระหว่างรอช้อนใหม่
หรืออีกวิธี
คือ...สั่งจานใหม่ แบบนี้เค้าเรียก Blue
Ocean ( อ่านต่อ ทฤษฎี Blue Ocean http://mercury21stcentury.blogspot.com/2015/01/blue-ocean.html)
Read More:
mercury21stcentury.blogspot.com

No comments:
Post a Comment