Saturday, January 31, 2015

หมดเวลา 4P’s ที่คิดเองเออเอง ถึงเวลา 4E’s ที่ประสบการณ์ของผู้บริโภคต้องมาเป็นที่หนึ่ง

นักการตลาดยุค Digital ต้องคิดใหม่ หมดเวลา 4P’s ที่คิดเองเออเอง  ถึงเวลา  4E’s ที่ประสบการณ์ของผู้บริโภคต้องมาเป็นที่หนึ่ง

ใครที่คลุกคลีอยู่ในวงการการตลาด ทฤษฎีหนึ่งที่ คลาสสิค และคุ้นเคย ที่นักการตลาด มักใช้เป็นตัวตั้งต้นเมื่อต้องการทำ Marketing Plan หรือ การวางแผนเพื่อออกตัวสินค้าสักอย่างคงหนีไม่พ้นแนวคิดขั้นพื้นฐาน อย่าง 4P’s  ได้แก่ 1. Product  2. Price 3.  Place และ 4. Promotion แนวคิดนี้เป็นแนวคิด Basic ที่ยังคงใช้ได้มาตลอด เพราะคือปัจจัยพื้นฐานง่ายๆในการทำการตลาดให้กับสินค้า ทุกครั้งที่เราจะลงมือทำ 4 อย่างนี้คือ สิ่งที่เราต้องหาให้เจอ และตอบให้ได้ว่าแต่ละอย่างคืออะไร และทำอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น สินค้า (Product)ของเรา คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร เพื่อเราจะได้รู้ว่า ลูกค้าเราคือใคร ราคาเท่าไหร่ (Price)  ลูกค้าเราซื้อได้ไหม เหมาะสมกับลูกค้าเราหรือไม่  วางขายที่ไหน (Place)  ลูกค้าเราจะหาเจอไหม และส่งเสริมการขายอย่างไร (Promotion)  ให้ลูกค้าเราสนใจและเกิดความพอใจ สูงสุด   


ที่มา : www.ogilvy.com  

แต่ศตวรรษที่ 21 แนวคิดนี้กำลังถูกตีตื่น เพราะโลกดิจิทัล Digital และสังคมออนไลน์ ทำให้การคิดและติดกรอบเดิมอาจถึงเวลาเปลี่ยนแปลง เพราะวันนี้คือยุคของผู้บริโภค อย่างแท้จริง การรับรู้ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้บริโภคกันเอง และการส่งตือ คือปัจจัยมี่ทำให้ นักการตลาดต้องให้ความสำคัญ สินค้า ( Product)  จำเป็นต้องนำเสนอในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากขาย ราคา ( Price)ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้บริโภคและความต้องการของตลาด   โลกออนไลน์ คือการทะลายข้อจำกัดของคำว่าจุดขาย ( Place)  ที่ลูกค้าสามารถ ช้อปปิ้งออนไลน์ ได้ทุกที่ และการส่งเสริมการขาย(Promotion)  คือสิ่งที่กระตุ้นความต้องการและมันไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่มันต้องตอบสนองอารมณ์ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

เพราะในโลกยุคดิจิทัล  ชุมชนออนไลน์ Online Community คือพื้นที่ๆที่เสมือนจริง แต่ทรงพลังต่อผู้บริโภคอย่างยิ่ง การทำการตลาดในพื้นที่นี้ จึงไม่ใช่เพียง นำเสนอ 4P’s แต่ต้องใช้กลยุทธ์แบบ 4E’s
1. excite,  สิ่งที่นำเสนอต้องน่าตื่นเต้นและเร้าต่อความต้องการของผู้บริโภคได้
2. educate,การให้ความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงและครบทุกมิติ
3. experience สามารถสร้างประสบการณ์ร่วมได้จริง 
4. engage และท้ายที่สุดต้องสามารถสร้างความผูกพันธ์ ของผู้บริโภคที่มีต่อตราสินค้าในที่สุด  



วิธีคิดง่ายๆ ในการทำการตลาดกับผู้บริโภคในยุคดิจิทัล (Digital) แค่มีของขายไม่พอ ต้องสร้างประสบการณ์เพื่อกระตุ้นความต้องการให้ได้ครบทุกมิติ ต้องกระตุ้นให้อยากได้ ต้องเตรียมข้อมูลสนองต่อความอยากรู้ สร้างประสบการณ์ให้มีโอกาสในการมีส่วนร่วม และหาทางให้เขารัก จนอยากบอกต่อ ...ขาดข้อไหน ทำซะ 

Read More:

mercury21stcentury.blogspot.com 






Tuesday, January 13, 2015

แอปเปิ้ล (Apple) กำลังจะครองโลก!...จริงหรือ?



ในวันที่เราก้าวเข้าสู่ยุค PC ครองเมือง (Third Screen) โลกดูเหมือนจะเดินทางมาถึงขีดสุดของเทคโนโลยี ใครจะคิดว่าเราจะมีคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ใช้ในทุกครัวเรือน ทุกคนสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อรับ ส่งต่อ และแลกเปลี่ยน เนื้อหากันได้ ไม่ใช่แค่ระดับ  Local แต่เป็นระดับ  Global
ในยุค Third Screen คอมพิวเตอร์ หรือที่เราเรียกติดปากว่า PC ( Personal Computer) มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งกับสังคมโลก แบรนด์ (Brand) ต่างๆผุดขึ้นมาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด (market Share)โดยพยายาม หาข้อแตกต่างทั้งในเรื่อง คุณสมบัติ รูปลักษณ์ สเปค อุปกรณ์เสริม ราคา  แต่ทั้งหมด ใช้ระดับปฏิบัติการพื้นฐานเดียวกันคือ Microsoft
จนวันหนึ่งมีคนมองเห็น Blue Ocean ขนาดใหญ่ การแย่งชิงปลาในทะเล window  ไม่ใช่เรื่องสนุก การหาทางเลือกและโอกาสใหม่คือวิสัยทัศน์ของคนทำแบรนด์ที่ดี และนี่น่าจะเป็นมุมมองของแบรนด์ Apple  ประเด็นคำถามที่น่าสนใจคือ Apple มีวิธีการในการทำ Marketing อย่างไร ที่สามารถทำให้แบรนด์ขยายพื้นที่ในใจผู้บริโภคได้ดีขนาดนี้ 










“ Apple สามารถสร้าง Brand Community ขึ้นมาได้ Apple ไม่ได้เพียงแค่สร้างแบรนด์ขึ้นมาเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างชุมชนของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ Apple ขึ้นมาได้อย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple นั้นจะมีความรู้สึกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple นั้นดู เท่ห์ ดูดี ดูไฮเทค แต่ขณะเดียวกันก็ใช้ง่ายและคลาสสิก ทำให้บรรดาสาวกของ Apple นั้น จะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์เพียงหนึ่งเดียวของ Apple เท่านั้น พวกเขายังใช้ผลิตภัณฑ์ทุกประเภท ทุกตัวของ Apple เรียกได้ว่าตกเป็นสาวกศาสนา Apple ที่มี Steve Jobs เป็นศาสดา (แต่ปัจจุบันหลังจากเสียชีวิตก็เกิดใหม่เป็นวิทยาธรกึ่งยักษ์)  

สิ่งที่ Apple สามารถทำได้คือทำให้เมื่อผู้ใดเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์หนึ่งของ Apple แล้วก็จะเสพติดและต้องใช้ผลิตภัณฑ์อื่นให้ครบถ้วน ครบวงจร ถึงจะได้ประสิทธิภาพดีที่สุด
ที่มาhttp://library.acc.chula.ac.th/PageController.php?page=FindInformation%2FArticleACC%2F2555%2FPasu%2FBangkokBiznews%2FB0210121#sthash.SYopTThH.dpuf

ตอนนี้หันไปทางไหนรอบๆตัวเราจะเห็น Apple  อยู่เต็มไปหมด ยิ่งเราก้าวเข้าสู่ ยุคจอที่ 4 อย่างเต็มภาคภูมิ นอกจาก คอมพิวเตอร์แล้ว apple ยังมีโทรศัพท์มือถือ Iphone มี tablet Ipad และคงจะมีอื่นๆ ตามมา แบบไม่ต้องสงสัย 

แอปเปิ้ลกำลังจะครองโลก!...จริงหรือ


Read More:

mercury21stcentury.blogspot.com 






Monday, January 12, 2015

เคยเป็นมั๊ย !! กินก๋วยเตี๋ยวแล้วเหลือลูกชิ้นไว้กินตอนท้ายสุด





เห็น  7-11 เป็นไม่ได้ ขอแวะสักหน่อย โดยที่ไม่มีความต้องการซื้อซื้อสินค้าอะไรใดๆเลย

เลือกเอื้อมไปหยิบสินค้าจากชั้นวางสินค้าใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต ในชิ้นถัดไปทั้งๆที่ชิ้นแรกก็เหมือนกัน 

เลือกกินป๊อกกี้แท่งที่ไม่หักก่อน

พฤติกรรมเคยชินแบบนี้หลายคนอาจไม่ได้สนใจอะไรเพราะมันคือเรื่องธรรมดา แต่ความธรรมดาเหล่านี้ไม่ธรรมดาเลยสำหรับนักการตลาด เพราะข้อสังเกตุพฤติกรรมแปลกๆเหล่านี้คือจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจที่ดี คือต้องเข้าใจ  'Consumer Insight' 

ที่มา http://blog.rapidengage.com

การศึกษาถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในการตลาดยุคปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้เป็นการศึกษาเฉพาะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แสดงออกมาที่สังเกตุเห็นได้เท่านั้น แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษาถึงปัจจัยจิตวิทยาภายในของมนุษย์ว่าอะไรที่เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมที่แตกต่างกันเหล่านั้น และบ่อยครั้งการศึกษามีความยุ่งยากซับซ้อนเพราะการสอบถามผู้บริโภคอาจไม่เพียงพอ ผู้บริโภคเองก็ไม่ได้สาเหตุพฤติกรรมของตนเองอย่างแน่ชัด ที่มา Human Insight ไม่ใช่แค่ Consumer Insight , Dr.Vilert Purivat http://www.spahakuhodo.com/index.php/portal/knowledge/8/133



                                          ที่มา http://www.bulbbeat.com


อะไรคือ Consumer Insight ที่ดี 

1.       ต้องเข้าถึงพฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค In-dept 
2.       ต้องเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค ด้วยการเจาะลึกเข้าถึงแก่นที่อยู่ก้นบึ้งของหัวใจ Original 
3.       ต้องตอบความต้องการ Want ของผู้บริโภค ไม่ใช่ Need 
4.       ต้องให้ความสำคัญในพฤติกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของผู้บริโภค 


ซึ่งหากเราสังเกตุและเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าอยู่สม่ำเสมอ จะทำให้เราพบปัญหาบางอย่างที่คนส่วนใหญ่มองข้ามและนำไปสู่การพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น“ It isn't the customer's job to know what they want.” (Steve Jobs)  
 


ที่มา http://startupquote.com



อย่าลืมนะครับ มันไม่ใช่เรื่องที่ลูกค้าต้องรู้ว่าเค้าต้องการอะไร แต่เป็นเรื่องที่เจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดจำเป็นต้องรู้ หากใครมีพฤติกรรมแปลกๆแบบนี้ ไม่ต้องตกใจนะครับ ใครๆเค้าก็เป็นกัน ล่าสุดผมนี่ไปซื้อผงซักฟอก ดันมีซุ้มให้ทดลองดมน้ำยาปรับผ้านุ่ม เรียบร้อยครับได้กลับมาทั้งผงซักฟอกทั้งน้ำยาปรับผ้านุ่ม เจอประสบการณ์ร่วม CEM Customer Experience Management เข้าไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว พอตั้งสติได้ก็นึกย้อนกลับไป ผมซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่ออยากให้เสื้อผ้าของผมนุ่ม หรืออยากให้เสื้อผ้าหอมกันแน่ละเนี่ย 5555 

Read More:

mercury21stcentury.blogspot.com